ทำไมต้อง Sage 300cloud ERP? แล้วเหมาะกับธุรกิจใด?

Sage 300cloud ERP

Sage 300cloud ERP คือระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการธุรกิจที่สำคัญขององค์กร ตั้งแต่ด้านการเงิน การบัญชี การจัดซื้อ การขาย สินค้าคงคลัง การผลิต และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่

Sage 300cloud เป็นระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่พัฒนาโดย Sage Software ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 โดยกลุ่มนักธุรกิจชาวอังกฤษ เดิมที Sage 300cloud เป็นที่รู้จักในชื่อ Sage 300 และเปิดตัวในปี พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นระบบ ERP บนเครื่องแม่ข่ายที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่

ในปี พ.ศ. 2558 Sage ได้เปิดตัว Sage 300cloud ซึ่งเป็นเวอร์ชันระบบคลาวด์ของ Sage 300 เวอร์ชันนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของธุรกิจสมัยใหม่ ซึ่งต้องการระบบ ERP ที่ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้

Sage 300cloud ได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์ล่าสุด ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้จากทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัย เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง การจัดการโครงการ และการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า

Sage 300cloud ERP ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากธุรกิจทั่วโลก โดยในปี พ.ศ. 2564 มีลูกค้าใช้งาน Sage 300cloud ERP มากกว่า 100,000 รายในกว่า 100 ประเทศ

Sage 300cloud ERP

Sage 300cloud ERP ประกอบด้วยโมดูลหลัก ดังนี้

  • SM (System Management) โมดูลสำหรับจัดการระบบและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เช่น การตั้งค่าผู้ใช้และกลุ่มผู้ใช้ การกำหนดสิทธิการใช้งาน การจัดการข้อมูลสำรองและกู้คืนข้อมูล
  • GL (General Ledger) โมดูลสำหรับบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน เช่น บัญชีแยกประเภททั่วไป บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้ งบการเงิน
  • AP (Accounts Payable) โมดูลสำหรับจัดการบัญชีเจ้าหนี้ เช่น การขออนุมัติการสั่งซื้อ การสั่งซื้อสินค้า การออกใบแจ้งหนี้ การจ่ายเงิน
  • AR (Accounts Receivable) โมดูลสำหรับจัดการบัญชีลูกหนี้ เช่น การออกใบแจ้งหนี้ การรับชำระเงิน การวิเคราะห์เครดิต
  • IC (Inventory Control) โมดูลสำหรับจัดการสินค้าคงคลัง เช่น การควบคุมปริมาณสินค้าคงคลัง การกำหนดราคาสินค้า การวิเคราะห์สินค้าคงคลัง
  • PO (Purchase Order) โมดูลสำหรับจัดการการจัดซื้อ เช่น การขออนุมัติการสั่งซื้อ การสั่งซื้อสินค้า การรับสินค้า
  • OE (Operations) โมดูลสำหรับจัดการการผลิต เช่น การจัดการคำสั่งซื้อการผลิต การควบคุมการผลิต การจัดการสินค้าสำเร็จรูป

นอกจากโมดูลหลักแล้ว Sage 300cloud ERP ยังมีโมดูลเสริมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น

  • CRM (Customer Relationship Management) สำหรับบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
  • HR (Human Resources) สำหรับบริหารทรัพยากรบุคคล
  • SCM (Supply Chain Management) สำหรับบริหารห่วงโซ่อุปทาน
  • WMS (Warehouse Management System) สำหรับบริหารคลังสินค้า
  • EDI (Electronic Data Interchange) สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
Sage 300cloud ERP

Sage 300cloud ERP เหมาะกับธุรกิจใด?

แม้ว่า Sage 300cloud ERP จะมีความยืดหยุ่นในการปรับให้เข้ากับอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ก็มีจุดแข็งในด้านหลักๆ เช่น ด้านการเงิน การจัดการสินค้าคงคลัง และความสามารถหลายสกุลเงิน/สถานที่ ดังนั้นจึงเหมาะกับบางภาคส่วนโดยเฉพาะ ต่อไปนี้เป็นอุตสาหกรรมที่ Sage 300cloud ERP โดดเด่น:

การกระจายสินค้าและการผลิต (Distribution and Manufacturing):

  • จุดแข็ง: การประมวลผลคำสั่งซื้อขายแบบเรียลไทม์ การติดตามสินค้าคงคลังหลายสถานที่ เครื่องมือการจัดการการผลิต และการรายงานทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
  • ตัวอย่าง: ตัวแทนจำหน่ายส่งของ ผู้ผลิตแบบแยกส่วน ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้าง

งานบริการ (Professional Services):

  • จุดแข็ง: คุณสมบัติการจัดการโครงการ การเรียกเก็บเงินและออกใบแจ้งหนี้แบบรวม การจัดการเวลาและค่าใช้จ่าย และการสนับสนุนหลายสกุลเงินสำหรับลูกค้าระหว่างประเทศ
  • ตัวอย่าง: บริษัทวิศวกรรม บริษัทที่ปรึกษา บริษัทการตลาด ผู้ให้บริการด้านไอที

การค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค (Retail and Consumer Goods):

  • จุดแข็ง: การผสานรวมกับจุดขาย การจัดการสินค้าคงคลังแบบยืดหยุ่นพร้อมรองรับหลายสถานที่ การผสานรวมกับโปรแกรมความภักดี และรายงานการขายโดยละเอียด
  • ตัวอย่าง: ร้านค้าปลีกเฉพาะทาง ร้านค้าออนไลน์ แบรนด์แฟชั่น ร้านค้าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไรและการศึกษา (Non-Profit and Education):

  • จุดแข็ง: เครื่องมือการจัดการทุนสนับสนุน ความสามารถในการระดมทุน การติดตามผู้บริจาค และคุณสมบัติการควบคุมงบประมาณ
  • ตัวอย่าง: สถาบันการศึกษา องค์กรการกุศล มูลนิธิ องค์กรทางศาสนา

การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ (Construction and Real Estate):

  • จุดแข็ง: เครื่องมือประเมินต้นทุนและงบประมาณโครงการ การจัดการผู้รับเหมาช่วง การสนับสนุนหลายหน่วยงานสำหรับการจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่างกัน และการเงินแบบรวม
  • ตัวอย่าง: บริษัทก่อสร้าง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจัดการอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ Sage 300cloud ERP ยังสามารถเหมาะกับ:

  • ธุรกิจที่กำลังเติบโต (Growing businesses): การออกแบบช่วยให้สามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานได้ตามต้องการ
  • ธุรกิจที่มีการดำเนินงานระหว่างประเทศ (Businesses with international operations): การสนับสนุนหลายสกุลเงินและหลายภาษาช่วยให้สามารถจัดการการดำเนินงานทั่วโลกได้
  • ธุรกิจที่ต้องการการจัดการสินค้าคงคลังขั้นสูง (Businesses needing advanced inventory management): คุณสมบัติ เช่น การประกอบชุดและความสามารถในการติดตามหมายเลขซีเรียล รองรับความต้องการที่ซับซ้อน

Sage 300cloud ERP ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

หากคุณต้องการทราบว่า Sage 300cloud ERP เหมาะกับอุตสาหกรรมของคุณหรือไม่? คุณสามารถปรึกษาเราได้ เราสามารถแนะนำการใช้งาน Sage 300cloud ERP ว่าสามารถประยุกต์ใช้ในธุรกิจเฉพาะของคุณได้หรือไม่

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sage 300cloud ERP ได้ที่

บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด

โทร 026348899 อีเมล sales@sundae.co.th

เว็บไซต์ https://www.sundae.co.th/solution/erp/sage-300cloud-erp/

#ERP #Sage #Sage300cloudERP #SundaeSolutions

Share