ป้ายสี่เหลี่ยมอัจฉริยะ “QR Code”

หลังๆ มานี้ เราได้เห็นแผ่นป้ายที่มีรูปสี่เหลี่ยมคล้ายๆ กับบาร์โค้ด มากขึ้น

ป้ายสี่เหลี่ยมที่ผมพูดถึงนี้ก็คือ QR Code หรือ Quick Response Code นั่นเอง จริงแล้ว QR Code มีกำเนิดมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2537 หรือ 16 ปีที่แล้ว โดยบริษัทของญี่ปุ่น บางคนอาจจะเรียกว่า 2D Barcode ก็ได้

ที่ได้ชื่อว่าเป็น Quick Response Code ก็เพราะว่าผู้คิดค้นต้องการให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลได้อย่างทันทีทันใด หรือในขณะนั้น เมื่อสแกนที่ป้าย QR Code โดย QR Code จะเก็บข้อมูลประเภทข้อความ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ (URL)

การใช้งาน QR Code ไม่ได้ยากเลย เพียงคุณใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้งาน QR Code ได้ สแกน QR Code ด้วยกล้องถ่ายรูปของโทรศัพท์มือถือ จากนั้นโปรแกรมอ่าน QR Code ก็จะพาคุณไปยังเว็บไซต์นั้นๆ ที่ระบุใน QR Code

ด้วยความสามารถนี้ จึงทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ของ QR Code กับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมากมาย แต่บางยี่ห้ออาจต้องติดตั้งโปรแกรม QR Reader ก่อน เช่น iPhone เป็นต้น

แนวโน้มการใช้งาน QR Code จึงเติบโตขึ้นมากตามการเติบโตของโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน และก็ขยายตัวในวงกว้างมากขึ้น

เราเห็นป้ายสี่เหลี่ยม QR Code ตามโฆษณานิตยสาร ข้างกล่องผลิตภัณฑ์บ้าง ป้ายโฆษณาข้างรถบ้าง บนเสื้อผ้าและ ใช้ใน Social Network ด้วย รายงานของ Google Trend ที่ชี้ถึงแนวโน้มการใช้งาน QR Code http://www.google.com/insights/search/>

คุณสามารถที่จะสร้างป้ายสี่เหลี่ยม QR Code ได้ด้วยต้นเอง ทดลองได้ที่เว็บ http://qrcode.kaywa.com เพียงระบุ URL หรือ ข้อความ หรือ เบอร์โทรศัพท์ ที่ต้องการให้อ่าน คุณก็สามารถสร้างไฟล์รูปภาพ QR Code เพื่อนำไปใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าเว็บไซต์ที่คุณจะแนะนำใน QR Code ควรต้องเป็นเว็บไซต์ที่ออกแบบเพื่อหน้าจอสำหรับโทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ทโฟนด้วย บ่อยครั้งที่ผมเห็นโฆษณาที่ให้ผู้ชมโฆษณาสแกน QR Code แล้วให้ไปที่เว็บไซต์ปกติ สุดท้ายแล้ว ผู้ชมจะได้ไม่สามารถเห็นข้อมูลเว็บไซต์ได้อย่างครบถ้วน หรือ ไม่ได้รับประโยชน์สูงสุดสำหรับการใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือ คุณสามารถให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดริงโทน หรือ รูปภาพที่เหมาะกับโทรศัพท์มือถือ กับเว็บไซต์ที่คุณจะแนะนำได้

บางเว็บไซต์ไม่ได้ออกแบบให้แสดงข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือ ก็จะทำให้ผู้ชมพลาดข้อมูลที่จำเป็นบนเว็บไซต์ได้ คุณจะต้องออกแบบเว็บไซต์ใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ โดยระบุ URL ที่แต่ต่างกันออกไปจาก URL ของเว็บไซต์ปกติ เช่น เว็บไซต์ปกติของคุณคือ www.company.com คุณ อาจให้ QR Code นำผู้ใช้มือถือไปยัง www.company.com/mobile หรือ m.company.com เป็นต้น โดยเว็บไซต์ที่ออกแบบใหม่นี้จะต้องเหมาะกับขนาดของหน้าจอของโทรศัพท์มือถือทั่วไปด้วย

อีกเทคนิคหนึ่งที่ใช้บ่อยและมีความสำคัญในการตรวจสอบประสิทธิผลของสื่อ คือ การเพิ่ม คำลงท้าย ในชื่อ URL ของ QR Code นั้น เช่น แทนที่คุณจะระบุเว็บไซต์เพียงแค่ www.company.com/mobile คุณอาจระบุเพิ่มเติมเป็น www.company.com/mobile?QR

ด้วยเทคนิคนี้จะทำให้คุณสามารถสอบกลับได้ว่ามีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณจากป้าย QR Code เท่าไร เพราะถ้าคุณใช้ URL เดียวกันกับทุกสื่อ คุณก็จะไม่สามารถแยกแยะแหล่งที่มาได้ การเพิ่มคำลงท้ายนี้ จะไม่มีผลต่อเว็บไซต์ใดๆ คุณยังสามารถเพิ่มข้อความอื่นๆ เพื่อระบุชี้ชัดแต่ละสื่อละเอียดมากขึ้นอีกก็ได้ เช่น URL สำหรับนิตยสาร คุณอาจจะใช้ www.company.com/mobile?QR&Media=Mag URL สำหรับข้างสินค้า คุณอาจจะใช้ www.company.com/mobile?QR&Media=Prod อย่างนี้คุณสามารถที่จะแยกแยะแหล่งที่มาของสื่อได้

การใช้ QR Code จะมีประโยชน์อย่างสูง ต่อเมื่อคุณต้องเข้าว่าผู้ใช้จะสแกน QR Code ด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ทโฟนเท่านั้น และต้องการทราบข้อมูลขณะนั้นทันที ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นเลยที่คุณจะแนะนำป้าย QR Code บนเว็บไซต์ปกติของคุณ หรือ แนบท้ายอีเมล์ของคุณ เพราะผู้รับสื่อเหล่านี้สามารถที่จะคลิกด้วย URL จากสื่อเหล่านั้นได้ทันทีอยู่แล้ว

นาวิก นำเสียง
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด

(SourceCRMinAction)

Share