การตลาดในยุค Social-Mobile

            ความจริงแล้วนักการตลาดได้พูดถึงการตลาดสำหรับโทรศัพท์มือถือ หรือ โมบายมานานแล้วพอสมควร ซึ่งนักการตลาดจะให้ความสำคัญกับ 2 สิ่งนี้เป็นหลัก คือ โฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ ที่เรียกกันว่า Mobile Advertising และอีกอย่างก็คือ Location Based Mobile Marketingที่ใช้ตำแหน่งพิกัดในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ทุกที่และทุกเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

            ในวันนี้ โทรศัพท์มือถือของเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มันกลายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่พกพาได้ มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะด้วยซ้ำ ที่เราเรียกว่าสมาร์ทโฟน คุณเชื่อหรือไม่ว่า จำนวนของผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีมากกว่า 1 พันล้านรายไปเรียบร้อยแล้ว และมันจะมากเป็น 2 เท่าใน ปี พ.ศ. 2558 หากจะมองไปแล้วมันคือโอกาสๆ ที่คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากมายมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์

            สมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นพื้นที่สำหรับโฆษณาและบอกพิกัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่มันสามารถเชื่อมต่อผู้คนเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่นักการตลาดไม่ควรจะพลาดการกำหนดกลยุทธ์นี้อีกต่อไป จากนี้ไปเราจะเข้าสู่ยุค Social-Mobile ที่สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและสังคมของเรา

            แนวโน้มต่อไปนี้ เราสามารถนำมาวิเคราะห์และมองโอกาสที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตอันใกล้ได้จาก Social-Mobile

  1. Facebook เข้าสู่ Social-Mobile อย่างเต็มตัว ถึงแม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Facebook จะไม่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Facebook แต่เป็นการเปิดตัว Facebook Home ที่สร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับผู้ใข้เครื่อง Android ก็ตาม แต่นี่เป็นสัญญานบอกให้เราทราบแล้วว่า ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนไม่ได้ใช้เพียงแค่แอปพลิเคชั่น หรือเกม หรือทำงาน อีกต่อไปแล้ว พวกเขาจะให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับเพื่อนในสังคมออนไลน์มากขึ้น

    สถิติหนึ่งที่สำคัญคือ วันนี้มีผู้ใช้งาน Facebook ผ่านโมบายมีสูงถึง 680 ล้านคน ซึ่งมากกว่าผู้ใช้งานที่ไม่ผ่านโมบายเป็นครั้งแรก ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขสำคัญทีเดียวที่จะบอกว่าเราได้ว่า เราเข้าสู่ยุค Social-Mobile แล้ว

  2. ชุมชน Social-Mobile มีการอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนอกจาก Facebook แล้ว เว็บไซต์สังคมออนไลน์อันดับต้นๆ อย่าง Twitter Instagram หรือ Pinterest เองก็มีจำนวนผู้ใช้งานผ่านโมบายสูงขึ้นและสูงอย่างก้าวกระโดด ในทางตรงกันข้าม ผู้ใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะกลับลดลงไปเรื่อยๆ

    พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาจะใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือแม้กระทั้งซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้นผ่านโมบาย ในสหรัฐฯ​ มากกว่า 86 ล้านคนซื้อสินค้าผ่านโมบายแล้ว เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นที่จากเดิมการซื้อสินค้าผ่านโมบายจะน้อยมาก  หรือแม้แต่แบรนด์ดังอย่าง Starbuck ที่มีลูกค้าในสหรัฐฯ​ เข้าสู่ระบบสั่งซื้อมากกว่า 1 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อซื้อกาแฟ

  3. ช่องทางทำเงินบนโมบายมีมากขึ้นช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการพยายามสร้างแพลทฟอร์มที่จะเพิ่มพื้นที่โฆษณาให้มากขึ้นบนหน้าจอสมาร์ทโฟน ความพยายามเหล่านี้นำมาซึ่งความสำเร็จในวันนี้ ตัวอย่างของ Facebook ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับประสิทธิผลที่มากขึ้นของ Sponsored Stories บนโมบายที่เหนือกว่าโฆษณาแบนเนอร์บนโมบายธรรมดา  หรือ ตัวอย่างของ Line ที่นำเสนอสติกเกอร์และ Official Line Account แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นกัน

    ความสำเร็จเหล่านี้เป็นสัญญานบอกให้นักการตลาดทราบว่า รูปแบบของโฆษณาไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นโฆษณาแบนเนอร์สี่เหลี่ยมอีกต่อไปแล้ว เราสามารถที่จะฉีกกรอบแล้วสร้างเครื่องมือหรือแพลทฟอร์มขึ้นมาใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและที่สำคัญจะต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคด้วย

            จากนี้ไป คุณคงจะไม่ปฏิเสธการตลาด Social-Mobile ได้อีกต่อไปแล้ว คุณต้องเริ่มวางกลยุทธ์ให้กับมันอย่างจริงจัง เริ่มต้นจากทัศนคติที่เป็นโมบาย หรือให้คิดถึงโมบายเป็นอันดับแรกก่อน ในทุกจุดสัมผัสกับลูกค้า คุณจะต้องคำนึงถึงการเข้าถึงผ่านทางโมบายเป็นสำคัญ ตั้งแต่ เว็บไซต์ แคมเปญและกิจกรรมการตลาด หรือกิจกรรมออนไลน์ที่จะต้องเข้าถึงได้ง่ายผ่านทางโมบาย จากนั้น คุณควรจะให้พนักงานและผู้บริหารของคุณสัมผัสกับโลกของ Social-Mobile มากยิ่งขึ้น เพราะมันคือแรงผลักดันสำคัญต่อกลยุทธ์ขององค์กรทั้งหมด

นาวิก นำเสียง
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด
navik@sundae.co.th

(Source : คุณนาวิก นำเสียง)

Share