อลังการเทคโนโลยี TechnoMart InnMart 2012

    ตื่นตัวกันสักนิด จะเศรษฐกิจหรือวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันทุกอย่างมันไม่ได้ไกลตัวเรานักเลย นวัตกรรมใหม่ๆ ถูกสร้างก็เพื่อความเป็นอยู่ ความสะดวกขึ้นของกิจกรรม การดำเนินชีวิตของทุกคน ไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม และยิ่งคำว่าเปิดเสรีอาเซียนมาคอยสะกิดหูประชาชนคนไทยมาระยะหนึ่งแล้ว จากนี้นับถอยหลังอีก 3 ปีเท่านั้น ทุกภาคส่วนพุ่งเป้าไปในเรื่องการปรับตัวรับการแข่งขันที่ระอุขึ้นแน่ ไม่ใช่แค่โอกาสที่เราจะไปเปิดตลาดคนอื่นสู่ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน เราเองก็โดนชาติอื่นมาเปิดตลาดด้วยเช่นกัน

    การปรับตัวรับและเตรียมกลยุทธ์ให้พร้อมที่จะโดดเข้าสู่เวทีการแข่งขัน และท่าจะให้ดีก็ต้องเชิงรุก ซึ่งสำคัญมาก และที่จะละเลยไม่ได้คือ การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ที่จะนำพาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีในระดับชุมชน

    ช่วงสัปดาห์นี้มีงานที่น่าสนใจ TechnoMart InnoMart 2012 หรือ งานเทคโนโลยีและนวัตกรรของไทย ประจำปี 2555 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555 ณ อาคาร EH 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางน

    แน่นอน ปีนี้ก็ต้องยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ต้องดีขึ้นกว่าหนที่แล้ว หวังให้งานนี้ออกมาในรูปแบบ Thailand Expo Technology มีการจับมือกันระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยและต่างประเทศ ร่วมโชว์ศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยี Hybrid/นวัตกรรมที่อยู่อาศัย/เทคโนโลยีไฮเทคระบบประมวลผลความเร็วสูง A6/จอแสดงผลความละเอียดสูง Retina Display และจอภาพแสดงผล การแจ้งเป็นเทคโนโลยี จอมัลติมีเดียรูปแบบใหม่ ที่จะนำเข้ามาเปิดตัวในงาน นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมด้านสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม โชว์การสกัดสมุนไพรล้ำยุค และทดลองใช้สมุนไพร “ไพล” สินค้าต้นแบบ  พร้อมดึง 14 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ สมาคมเครื่องจักรกลไทย บริษัทเอกชนไทยชั้นนำ สถาบันการศึกษา กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมงานอวดเทคโนโลยีกว่า 300 ผลงานบนพื้นที่กว่าหนึ่งหมื่นตารางเมตร

     รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงเรื่องนี้อย่างน่าสนใจ ชี้เทคโนโลยีนวัตกรรมไทยสร้างจุดแข็ง ศก.ชาติ ประเทศไทยยังต้องพัฒนาในเรื่องคุณภาพแรงงานและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและรองรับการเป็น AEC ดังนั้น เราต้องสร้างแนวทางในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตในรูปแบบของตัวเอง ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เหมาะสมกับประเทศ เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าเกษตร สุขภาพ การท่องเที่ยว เป็นต้น และสามารถนำแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์มาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่ไปกับเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจ SMEs ที่มีส่วนสำคัญต่อภาคธุรกิจของไทย นอกจากนี้ ไทยต้องพัฒนาคุณภาพของแรงงานและนักวิจัยเพื่อรองรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ในอนาคต

     สิ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษสำหรับการจัดงานครั้งนี้ คือ ความโดดเด่นของเทคโนโลยีและนวัตกรรม สำหรับผลงานเด่นในโซนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน  อาทิ เครื่อง CT สแกนสำหรับงานทันตกรรม/ข้อเข่าขาเทียม/โครงการพัฒนาเรดาร์เตือนภัยทางบกและทางทะเล/พลาสติกชีวภาพ/เทคโนโลยีแนวใหม่ในการดูแลสุขภาพผิวพรรณ/การเลี้ยงเซลล์สาหร่ายบนชิพด้วยเทคนิคโครงสร้างจุลภาครังสีเอ็กซ์จากเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน เป็นต้น พร้อมให้คำปรึกษาในส่วนของบริการต่างๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อประชาชาชน มีโซนเทคโนโลยีและนวัตกรรมเด่นของหน่วยงานต่างๆ เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต ทั้งของไทยและต่างประเทศ อาทิ หุ่นยนต์เลี้ยงไก่ ที่สามารถเข้าไปทำงานแทนคนป้องกันการติดเชื้อจากฟาร์มสามารถวัดอุณหภูมิของเชื้อโรคได้/นวัตกรรม RCI (Radiant Catalytic Ionization) ลิขสิทธิ์จากองค์การนาซา โดยผลิต oxygen peroxides กำจัดความสกปรกและกลิ่นอับยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย นำมาประยุคใช้เป็นอุปกรณ์เสริมต่อพวงเครื่องซักผ้าทดแทนการใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการซักผ้า/นวัตกรรม Hybrid ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดสำหรับรถยนต์ หรือเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยนวัตกรรมสมาร์ทโมบาย เป็นต้น

     กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) หน่วยงานในกำกับของ กระทรวงกลาโหม โชว์อากาศยานไร้คนขับแบบปีกตรึง ใช้ในภารกิจลาดตระเวนหาข่าว เฝ้าตรวจสนามรบ ค้นหาและกำหนดที่ตั้งเป้าหมาย ปรับการยิงปืนใหญ่ และตรวจสอบความเสียหายของเป้าหมาย/โซนเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น  เครื่องรีไซเคิลน้ำยาล้างคราบไขมันแบบไอระเหย เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กอเนกประสงค์ เครื่องวัดวิเคราะห์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ โซนการแพทย์และสมุนไพร เช่น เทคโนโลยีการพัฒนาตรวจวิเคราะห์เพื่อคัดกรองการเกิดดาวน์ซินโดรมของเด็กทารก นอกจากนี้ ยังมีผลงานเด่นๆ อีกมากมายในโซนนวัตกรรมสร้างสรรค์ โซนเทคโนโลยีเกษตรและอาหาร และโซนเทคโนโลยีเพื่อชุมชน 

        สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ สำหรับการแจ้งข่าว “Media Box” เพื่อเกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในประเทศไทย จนก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตทรัพย์สินและเศรษฐกิจ จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นของการติดตามสถานการณ์น้ำจากข้อมูลรอบด้านโดยเฉพาะหน่วยงานระดับท้องถิ่นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น ประชาชนทั่วไปจึงควรเข้าใจวิธีการดูข้อมูลเพื่อติดตามสภาพอากาศในปัจจุบัน และข้อมูลคาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้าได้โดยง่าย ด้วยเทคโนโลยี RSS News Feed ผ่านอุปกรณ์แจ้งข่าว Media Box ที่สามารถติดตั้งเองได้ง่าย และราคาถูก โดยภายในงานกระทรวงได้แจกอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยงาน ระดับท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องจำนวน 131 หน่วยงานจากทั่วประเทศ

    ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2555 ครั้งนี้ จะได้รับองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากเจ้าของผลงานโดยตรงหรือนักวิชาการ รวมถึงโอกาสทางการเจรจาซื้อขาย แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีสามารถต่อยอดทางธุรกิจ การสร้างเครือข่ายการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างคนไทย เพื่อพัฒนาให้เกิดกลุ่มที่เข้มแข็งและสามารถแข่งขันในระดับสากลต่อไป.

(Source : Thaipost)

Share