AI ช่วยหาลูกค้าใหม่ได้อย่างไร?
พลิกเกมการขายในยุคข้อมูล

AI ช่วยหาลูกค้าใหม่ได้อย่างไร พลิกเกมการขายในยุคข้อมูล

บทนำ: ยุคใหม่ของการขายต้องพึ่ง AI

ในอดีต การขายมักเริ่มจากความสัมพันธ์ การเข้าหาลูกค้าด้วยความพยายามส่วนบุคคล และการใช้ประสบการณ์ของเซลส์ในการเลือกเป้าหมาย แต่เมื่อธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิทัล ความซับซ้อนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ลูกค้ามีตัวเลือกมากมายและเข้าถึงข้อมูลได้เองก่อนที่ฝ่ายขายจะเข้าถึงพวกเขา การแข่งขันรุนแรงและเวลาเป็นสิ่งสำคัญ

AI หรือปัญญาประดิษฐ์จึงกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญของทีมขายยุคใหม่ ไม่ใช่แค่เพื่อลดงานซ้ำซ้อน แต่เพื่อช่วยให้ทีมขายเข้าถึง “ลูกค้าที่ใช่” ได้ก่อนใคร ด้วยข้อมูลที่แม่นยำและการคาดการณ์ที่มีหลักฐานรองรับ

ทำไมการหาลูกค้าใหม่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของทีมขาย

  1. ลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่เฉพาะตัวมากขึ้น
    • การขายแบบ Mass ไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป ลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการแตกต่างกัน การสื่อสารที่ไม่ตรงจุดจะทำให้พลาดโอกาส
  2. ข้อมูลของลูกค้ากระจายอยู่หลายช่องทาง
    • ลูกค้าติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ อีเมล โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งแชทบอท ข้อมูลกระจัดกระจายทำให้มองภาพรวมได้ยาก
  3. ทีมขายต้องบริหารเวลาจำนวนมากกับ Leads ที่ยังไม่มีคุณภาพ
    • การโทรหาลูกค้าทั้งหมดโดยไม่รู้ว่าใครมีแนวโน้มซื้อ ทำให้เสียเวลาทั้งทีม และพลาดโอกาสที่แท้จริง
  4. การแข่งขันที่ดุเดือด
    • ตลาดในทุกอุตสาหกรรมเต็มไปด้วยคู่แข่ง ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น ทีมขายจึงต้องหา “โอกาส” ก่อนที่คู่แข่งจะเข้าไป

AI: จากการคาดเดา สู่การขายแบบแม่นยำ

AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเพื่อความล้ำหน้า แต่คือเครื่องมือที่แปลงข้อมูลดิบให้กลายเป็น Insight เช่น:

  • การประเมิน Lead Scoring โดยอัตโนมัติ: AI วิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นขนาดบริษัท อุตสาหกรรม พฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อให้คะแนนความน่าจะเป็นในการปิดการขาย
  • วิเคราะห์ Intent (ความตั้งใจซื้อ): วิเคราะห์การคลิก ดูหน้าเว็บ ดาวน์โหลดเอกสาร หรือเปิดอีเมล เพื่อหาสัญญาณของความสนใจ
  • แนะนำเวลาติดต่อที่เหมาะสมที่สุด: จากพฤติกรรมของลูกค้า AI ช่วยแนะนำว่าควรติดต่อเมื่อใด โอกาสสำเร็จจะสูงที่สุด
  • เรียนรู้จากประวัติการขายที่เคยเกิดขึ้น: เพื่อคาดการณ์ว่าลูกค้าแบบใดมีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้าจริง

5 วิธีที่ AI ช่วยทีมขายเจอลูกค้าใหม่ง่ายขึ้น

  1. คัดกรองผู้ที่มีแนวโน้มซื้อสูง (Predictive Lead Scoring)
    • AI วิเคราะห์พฤติกรรม ความถี่ในการโต้ตอบ และข้อมูลประชากรศาสตร์ของผู้ที่แสดงความสนใจ เพื่อจัดลำดับความสำคัญให้ทีมขายมุ่งเป้าไปยัง Leads ที่ “มีโอกาส” จริงๆ
  2. Lookalike Model: ค้นหาลูกค้าใหม่ที่คล้ายลูกค้าเดิม
    • AI สร้างโมเดลจากลูกค้าที่เคยปิดการขายได้ และค้นหาผู้ที่มีพฤติกรรมคล้ายกันในตลาดเดียวกันหรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ
  3. Automated Sales Sequences
    • กำหนด Workflow ในการส่งอีเมล/ติดตามผลอัตโนมัติ เช่น ติดตามหลังจากเปิดอีเมล ส่งข้อเสนอหลังเข้าเว็บไซต์ เป็นต้น
  4. Intent Detection จากเว็บไซต์และอีเมล
    • เมื่อลูกค้าเข้าเว็บไซต์บางหน้า เช่น หน้าสินค้า หน้าราคา ระบบจะแจ้งเตือนให้ทีมขายเข้าไป Engage ได้ทันที
  5. AI Chatbot สำหรับเก็บ Leads ใหม่
    • แชทบอทที่ไม่ใช่แค่ตอบคำถามทั่วไป แต่สามารถเก็บข้อมูลพื้นฐาน จัดลำดับความสำคัญ และส่ง Leads ให้ฝ่ายขายได้ทันที

 

AI ที่ใช้งานได้จริง ต้องอยู่ในระบบที่ใช้งานง่าย

AI ที่ดีไม่ใช่แค่ฉลาด แต่ต้องถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งานด้วยเช่นกัน เครื่องมือ CRM สมัยใหม่หลายแห่งเริ่มผสาน AI เข้ากับระบบเพื่อช่วยทีมขายทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้โค้ดหรือวิเคราะห์ข้อมูลเอง

 

ตัวอย่างเช่น CRM บางระบบจะมี Sales Assistant ที่คอยแนะนำรายชื่อ Leads ที่ควรติดต่อวันนี้ พร้อมจัดลำดับความสำคัญ และแม้แต่ช่วยร่างอีเมลตอบกลับในแบบที่มีแนวโน้มได้ผลดี ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มกลายเป็นมาตรฐานในเครื่องมือของยุคใหม่

 

กรณีศึกษา: Prospecting ลูกค้าใหม่แบบอัตโนมัติ

บริษัทหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีใช้ระบบ CRM ที่มี AI ฝังในตัวเพื่อช่วยทีมขายที่มีขนาดเล็กแต่ต้องการขยายตลาด จากเดิมที่ใช้เวลา 70% ของวันกับการโทรหา Leads แบบกระจาย ตอนนี้พวกเขาใช้เวลาเพียง 30% แต่มี Conversion Rate เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

ระบบช่วยคัดกรอง Leads และแนะนำลำดับการติดต่อ พร้อมคาดการณ์ว่าใครควรได้รับการ Follow-up ในวันนั้น ส่งผลให้ยอดขายเติบโต 40% ในไตรมาสเดียว

อนาคตของทีมขาย: AI ไม่ได้มาแทน แต่มาเสริม

  • AI ช่วยลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มเวลาให้ฝ่ายขายได้ทำงานเชิงกลยุทธ์
  • ข้อมูลแบบ Real-time ช่วยให้ตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำ
  • ระบบ Sales Copilot กลายเป็นผู้ช่วยประจำทีมขาย ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยีทางเลือกอีกต่อไป

 

เมื่อทีมขายมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีลำดับความสำคัญที่ชัดเจน และมี AI คอยแนะนำวิธีติดต่อ พวกเขาสามารถปิดการขายได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่ากว่าเดิม

 

สรุป

AI ไม่ได้มาแทนที่ทีมขาย แต่มาเป็นเครื่องมือเสริมให้การหาลูกค้าใหม่แม่นยำและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก หากองค์กรสามารถผสาน AI เข้ากับกระบวนการขายได้อย่างลงตัว ไม่เพียงแต่จะเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย แต่ยังช่วยให้ทีมขายมีเวลาสำหรับงานที่สำคัญกว่าการค้นหา Leads อย่างไร้ทิศทาง

แพลตฟอร์มที่ผสาน AI เข้ากับระบบ CRM อย่างแนบเนียน กำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักของธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างชาญฉลาดในยุคดิจิทัล

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ  Freshsales และ Freddy AI Agent ติดต่อ

Sundae Solutions Co., Ltd.

T| +6626348899  E| sales@sundae.co.th

W| https://www.sundae.co.th/solution/crm-and-customer-experience/freshworks/

DISPL 2