Device42:
โซลูชันครบวงจรสำหรับการจัดการสินทรัพย์ไอทีและการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานไฮบริด

ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับองค์กรต่างๆ Device42 นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับ การค้นพบข้อมูลสินทรัพย์ไอที การจัดการ และการรายงานที่เห็นภาพรวม เพื่อช่วยให้องค์กรมีความเข้าใจและควบคุมสินทรัพย์ไอทีของตนได้อย่างสมบูรณ์
Device42 คืออะไรและช่วยอะไรได้บ้าง?
Device42 เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่รวมความสามารถด้าน IT Asset Management (ITAM), Data Center Infrastructure Management (DCIM) และ Configuration Management Database (CMDB) เข้าไว้ด้วยกัน เป้าหมายหลักคือการให้การมองเห็นและการจัดการด้านไอทีแบบไฮบริดที่สมบูรณ์ที่สุด
แพลตฟอร์มนี้รองรับกรณีการใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่:
- การจัดการสินทรัพย์ไอที (IT Asset Management): ให้การค้นพบสินทรัพย์ไอทีแบบไฮบริดที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด
- การจัดการโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล (DCIM): จัดการเลย์เอาต์ห้องเซิร์ฟเวอร์, แผนภาพแร็คเซิร์ฟเวอร์, และซอฟต์แวร์การจัดการสายเคเบิล
- การดำเนินงานไอที (IT Operations): เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการดำเนินงานไอทีได้มากกว่า 60%+
- การจัดการบริการไอที (ITSM): ช่วยปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจและปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ ITSM ด้วยการค้นพบและแมปความสัมพันธ์อัตโนมัติขั้นสูง
- การปฏิบัติตามข้อกำหนดและการตรวจสอบ (Compliance & Audit): สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดการตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย เช่น ISO27001
- การเปลี่ยนแปลง/การโยกย้าย (Transformation / Migration): ให้การมองเห็นที่สมบูรณ์ก่อน ระหว่าง และหลังการเปลี่ยนแปลงหรือการโยกย้าย เช่น การโยกย้ายไปยังคลาวด์หรือ AWS
- ความยั่งยืนและการลดการใช้พลังงาน (Sustainability & Power Reduction): ช่วยลดต้นทุนพลังงานและการปล่อย CO₂ ได้ 30% หรือมากกว่า
คุณสมบัติหลักของ Device42
Device42 มีคุณสมบัติที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนการจัดการสินทรัพย์ไอทีอย่างมีประสิทธิภาพ:
- การค้นพบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Discovery): เป็นการค้นพบที่ทันสมัยและสมบูรณ์ที่สุดสำหรับสภาพแวดล้อมไอทีและคลาวด์ของคุณ ตั้งแต่เทคโนโลยีเก่าแก่ เช่น เมนเฟรม ไปจนถึงคอนเทนเนอร์คลาวด์ล่าสุด รองรับการค้นพบทั้งแบบ Agentless และ/หรือ Agent-based ซึ่งสามารถผสมผสานกันได้
- CMDB (Configuration Management Database): เป็น CMDB ยุคใหม่ที่ทำงานแบบ Near Real-time, เป็นอัตโนมัติ และมาพร้อมข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง
- การแมปความสัมพันธ์ของแอปพลิเคชัน (Application Dependency Mapping – ADM): คุณสมบัติ ADM ในตัวช่วยเพิ่มความชัดเจนและเร่งเวลาในการแก้ไขปัญหา การโยกย้าย และการปรับปรุงระบบให้ทันสมัย
- การจัดการใบอนุญาตซอฟต์แวร์ (Software License Management): ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายใบอนุญาตซอฟต์แวร์ได้หลายพันดอลลาร์ โดยสามารถค้นหาใบอนุญาตโดยอัตโนมัติและเปรียบเทียบจำนวนที่ค้นพบกับจำนวนที่ซื้อ
- การจัดการที่อยู่ IP (IP Address Management – IPAM): เป็น IPAM ที่รวมอยู่ในระบบ ใช้งานง่าย และช่วยให้การมองเห็นและการจัดการ IP แบบรวมศูนย์
- Insights+ Reporting & Dashboards: คุณสมบัติ InsightsAI ช่วยให้สามารถเปลี่ยนคำถามภาษาธรรมชาติเป็นการสืบค้น SQL ที่แม่นยำเพื่อรับคำตอบที่ถูกต้อง แดชบอร์ดเหล่านี้ใช้ข้อมูลการค้นพบไอทีแบบไฮบริดที่ครอบคลุมเพื่อขับเคลื่อนการรายงานแบบเรียลไทม์
- การตรวจสอบและติดตามการรับประกันอัตโนมัติ (Automated Warranty Check and Tracking): สามารถดึงข้อมูลการรับประกันจากผู้จำหน่าย เช่น Dell, IBM และ Lenovo โดยอัตโนมัติ และติดตามสัญญาสำหรับสินทรัพย์ทุกประเภท
- รหัส QR และแท็กสินทรัพย์ (QR Codes & Asset Tags): รองรับการใช้งานสมาร์ทโฟนสำหรับการจัดการสินทรัพย์ไอที ทำให้สามารถใช้มือถือในการตรวจสอบสินค้าคงคลังได้
- การผสานรวม (Integrations): Device42 มีการผสานรวมมากกว่า 30 รายการกับเครื่องมือส่วนใหญ่ที่คุณอาจมีอยู่แล้ว และมี API แบบ Restful ที่เปิดอยู่ ทำให้ง่ายต่อการดึงหรือป้อนข้อมูลเข้าสู่ Device42 การผสานรวมกับเครื่องมือ ITSM เช่น JIRA, Zendesk, และ ServiceNow ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการรายละเอียดบริการไอที

ประโยชน์ของการใช้ Device42 และการจัดการสินทรัพย์ไอที (ITAM)
องค์กรที่ใช้ Device42 โดยเฉลี่ยสามารถ แก้ไขปัญหาการหยุดทำงานได้เร็วขึ้น 10 เท่า และมี ผลตอบแทนจากการลงทุน 4.8เท่า นอกจากนี้ยังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรไอทีได้ถึง 60% และ ลดเวลาที่ต้องใช้ในการตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดลง 85%
โดยรวมแล้ว การนำกลยุทธ์ ITAM มาใช้ (เช่นผ่าน Device42) จะช่วยให้คุณจัดการความรับผิดชอบด้านการเงิน สินค้าคงคลัง สัญญา และการบริหารความเสี่ยงตลอดวงจรชีวิตของสินทรัพย์ได้
ประโยชน์ทางการเงินของ ITAM:
- รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการเสื่อมราคาของสินทรัพย์
- ตัดสินใจซื้อได้อย่างรอบคอบและปรับปรุงกระบวนการจัดทำงบประมาณ
- ลดต้นทุนและของเสียจากการระบุสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งาน
- ปรับปรุงเวลาการทำงานของธุรกิจโดยลดเวลาในการแก้ไขปัญหา
ประโยชน์ด้านสินค้าคงคลังของ ITAM:
- สินค้าคงคลังไอทีที่แม่นยำช่วยเพิ่มความเร็วในการระบุสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบเมื่อเกิดเหตุการณ์
- ปรับปรุงกระบวนการบำรุงรักษาไอทีให้คล่องตัว
- ให้ข้อมูลในการตัดสินใจว่าสามารถโยกย้ายสินทรัพย์เพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจหรือต้องการทรัพยากรเพิ่มเติมได้หรือไม่
ประโยชน์ด้านสัญญาของ ITAM:
- เข้าถึงรายละเอียดข้อตกลงและประสิทธิภาพของสินทรัพย์ที่เช่าได้อย่างง่ายดาย
- สามารถตรวจสอบใบอนุญาตซอฟต์แวร์ได้อย่างง่ายดาย
- ติดตามสินทรัพย์ของลูกค้าในสภาพแวดล้อมของคุณเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญา
ประโยชน์ด้านการบริหารความเสี่ยงของ ITAM:
- สินค้าคงคลังไอทีที่แม่นยำช่วยเพิ่มการสนับสนุนด้านความปลอดภัยและการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ
- ควบคุมสภาพแวดล้อมไอทีได้ดีขึ้น ลดการหยุดทำงานและความเสี่ยง
- ติดตามและบังคับใช้นโยบายสินทรัพย์และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความเข้าใจการจัดการสินทรัพย์ไอที (ITAM)
การจัดการสินทรัพย์ไอที (ITAM) คือระเบียบวิธีในการจัดทำสินค้าคงคลังและจัดการปริมาณ การใช้งาน และมูลค่าทางการเงินของสินทรัพย์ไอทีตลอดวงจรชีวิตของสินทรัพย์ เพื่อเชื่อมโยงต้นทุนและความเสี่ยงกับสินทรัพย์แต่ละรายการเพื่อกำหนดมูลค่าทางธุรกิจ วัตถุประสงค์ของกลยุทธ์ ITAM คือการทำความเข้าใจทางการเงินที่มากขึ้นเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่บริษัทใช้งานอยู่ วงจรชีวิตของสินทรัพย์เหล่านั้น และสินทรัพย์ที่บริษัทตั้งใจจะซื้อ
ประเภทของ IT Asset Management:
- ฮาร์ดแวร์: ครอบคลุมสินทรัพย์ไอทีทางกายภาพ เช่น แร็คเซิร์ฟเวอร์, เซิร์ฟเวอร์, คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, อุปกรณ์ต่อพ่วง, เราเตอร์ และสวิตช์
- ซอฟต์แวร์: การติดตามสินทรัพย์ซอฟต์แวร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้อตกลงใบอนุญาตซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน เช่น สำหรับ hypervisors, public cloud, private cloud, containers, virtual machines (VMs) และซอฟต์แวร์ทางธุรกิจ
วงจรชีวิตของสินทรัพย์ไอที (IT Asset Lifecycle) ประกอบด้วยเจ็ดขั้นตอนสำคัญ:
- การวางแผน (Planning): กำหนดความต้องการและวัตถุประสงค์ของสินทรัพย์
- การจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement): การเจรจาต่อรองราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุด
- การดำเนินการ (Fulfillment): การรับสินทรัพย์ใหม่
- การปรับใช้ (Deployment): การบันทึกและนำสินทรัพย์ไปใช้งาน
- การตรวจสอบ (Monitor): การเก็บข้อมูลประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าเซิร์ฟเวอร์ได้รับการปรับให้เหมาะสม
- การบริการ (Service): การบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา การอัปเดตระบบปฏิบัติการ และการซ่อมแซมฉุกเฉิน
- การจำหน่าย (Disposal): การตัดสินใจว่าจะนำสินทรัพย์ไปใช้กับแอปพลิเคชันอื่น สำรองข้อมูล หรือจำหน่ายทิ้ง
ITAM กับ IT Inventory Management และ CMDB:
- ITAM เป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการติดตามสินทรัพย์ไอทีในแง่ของมูลค่าการเสื่อมราคา สัญญา และฟังก์ชันสินค้าคงคลัง เพื่อสนับสนุนการจัดการวงจรชีวิตและการตัดสินใจที่สำคัญต่อสภาพแวดล้อมไอที
- IT Inventory Management เป็นกระบวนการทางธุรกิจสำหรับการจัดการ จัดเก็บ นับ และบำรุงรักษาสินค้าคงคลังของรายการดังกล่าว
- CMDB ใช้เพื่อสร้างแบบจำลองข้อมูลความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ไอทีจากมุมมองด้านบริการและการดำเนินงาน เช่น การกำหนดค่า ความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลง และการวิเคราะห์ผลกระทบ แม้ว่า CMDB สามารถใช้สำหรับสินค้าคงคลังสินทรัพย์ ITAM ได้ แต่ ITAM และ CMDB มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและควรมีการผสานรวมกันเพื่อให้ข้อมูลสินทรัพย์ไอทีที่จำเป็นแม่นยำและน่าเชื่อถือ
ความเสี่ยงจากการไม่มีกลยุทธ์ ITAM:
- ขาดการมองเห็น (Lack of Visibility): คุณไม่สามารถจัดการสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงได้
- ไม่มีกลยุทธ์ IT Asset Management : ทำให้การจัดการ การบำรุงรักษา และความเสี่ยงของสินทรัพย์ไอทีไม่มีประสิทธิภาพ
- การบำรุงรักษาที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป (Over or Under Maintenance): การบำรุงรักษามากเกินไปอาจทำให้เกิดต้นทุนที่ไม่จำเป็นและเพิ่มความเสี่ยงต่อความล้มเหลว การบำรุงรักษาน้อยเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพของสินทรัพย์ลดลง
- การดำเนินงานที่ไม่เหมาะสม (Improper Operations): การจัดการสินทรัพย์ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาประสิทธิภาพ เช่น การใช้งาน CPU หรือหน่วยความจำที่สูงเกินไป
แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของ ITAM
ตามรายงานของ International Association of Information Technology Asset Managers (IAITAM) มีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด 12 ประการในการพัฒนากลยุทธ์ ITAM ที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึง:
- กระบวนการโปรแกรม (Program Process): การรวมศูนย์สินทรัพย์ไอทีทั้งหมดตลอดวงจรชีวิต
- การจัดการนโยบาย (Policy Management): การกำหนดและบังคับใช้นโยบายที่ชัดเจน
- การจัดการเอกสาร (Documentation Management): การดูแลรายละเอียดสินทรัพย์ไอที เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบอนุญาตซอฟต์แวร์ และใบรับรอง
- การจัดการการเงิน (Financial Management): การจัดการการคาดการณ์ การจัดซื้อ งบประมาณ และการตรวจสอบทางการเงิน
- การปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมาย (Compliance and Legislation): เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบ
- การระบุสินทรัพย์ (Asset Identification): การระบุ ตำแหน่ง และการจัดเก็บสินทรัพย์ไอทีแต่ละรายการในเครื่องมือการจัดการสินทรัพย์
- การจัดการการจำหน่าย (Disposal Management): การวางแผนเมื่อสินทรัพย์ไอทีหมดอายุการใช้งาน
การเลือกซอฟต์แวร์ ITAM
เมื่อเลือกโซลูชัน ITAM ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการ:
- ความสามารถในการค้นพบอัตโนมัติ (Automated Discovery Capabilities): ต้องสามารถค้นหาประเภทของสินทรัพย์ทั้งหมดในสภาพแวดล้อมของคุณได้
- การทำแผนที่ความสัมพันธ์และแดชบอร์ด (Dependency Mapping & Dashboarding): ควรให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมในรูปแบบของการรายงาน แดชบอร์ด และแผนที่ความสัมพันธ์
- การผสานรวม (Integrations): ควรมีการผสานรวมกับซอฟต์แวร์การดำเนินงานไอทีอื่นๆ ที่บริษัทของคุณใช้
- เวลาสู่มูลค่า (Time to Value): ควรได้รับมูลค่าทันทีที่ติดตั้งโซลูชัน
- การสนับสนุน (Support): ผู้ให้บริการควรมีทีมสนับสนุนที่พร้อมตอบสนองอย่างรวดเร็ว
Device42 เป็นส่วนหนึ่งของ Freshworks ซึ่งเป็นการควบรวมกิจการที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถด้าน ITAM โดยรวมแล้ว Device42 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลายพันรายในกว่า 60 ประเทศสำหรับการจัดการสินทรัพย์ไอที
Device42 – โซลูชันบริหารสินทรัพย์ไอทีและโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจร
ในยุคที่ธุรกิจต้องพึ่งพาระบบไอทีมากขึ้นทุกวัน การจัดการโครงสร้างพื้นฐานและสินทรัพย์ไอทีให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ Device42 คือแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถ มองเห็น ควบคุม และเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรไอทีทั้งในระบบภายในและระบบคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์
จุดเด่นของ Device42
-
✅ IT Asset Management (ITAM): ค้นพบและติดตามสินทรัพย์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างแม่นยำ
-
✅ CMDB อัตโนมัติ: แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระบบและบริการในมุมมองแบบ near real-time
-
✅ Data Center & Cloud Infrastructure Management (DCIM): บริหารแร็คเซิร์ฟเวอร์ สายเชื่อมต่อ และพลังงานได้อย่างเป็นระบบ
-
✅ Application Dependency Mapping: แสดงการเชื่อมโยงของแอปพลิเคชันเพื่อช่วยวิเคราะห์ผลกระทบและวางแผนการโยกย้าย
-
✅ IP Address Management (IPAM): บริหารจัดการที่อยู่ IP ได้ง่ายในมุมมองรวมศูนย์
-
✅ Reporting & InsightsAI: ระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานเชิงลึกผ่านคำถามภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ
-
✅ Integration พร้อมใช้งาน: รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องมือยอดนิยม เช่น JIRA, ServiceNow, Freshservice และอื่น ๆ กว่า 30 ระบบ
ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับ
-
🚀 แก้ไขปัญหาระบบล่มได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า
-
📉 ลดต้นทุนพลังงานและค่าไอทีได้มากกว่า 30%
-
📊 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรไอทีได้มากถึง 60%
-
✅ เตรียมความพร้อมด้าน Compliance และการตรวจสอบ เช่น ISO27001
-
🧠 ปรับปรุงการวางแผนและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ
เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ:
-
การมองเห็นทรัพย์สินไอทีแบบรวมศูนย์ (Single Source of Truth)
-
ลดความเสี่ยงจากระบบที่ซับซ้อน
-
วางแผนการเปลี่ยนแปลงหรือโยกย้ายไปยัง Cloud อย่างราบรื่น
-
เชื่อมโยงข้อมูลไอทีเข้ากับระบบ ITSM เพื่อยกระดับประสบการณ์บริการ
Device42 คือทางเลือกที่ชาญฉลาด สำหรับองค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพ มองเห็นได้ และควบคุมได้ในทุกมิติ
Freshservice
เป็นโซลูชันการจัดการบริการไอที (ITSM) บนคลาวด์ พัฒนาโดย Freshworks เช่นเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจาก Freshdesk ที่เน้นบริการลูกค้าภายนอก Freshservice มุ่งเน้นไปที่การดำเน坞งานภายในฝ่ายไอทีและคำขอของพนักงาน โดย Freshservice ช่วยเหลือทีมไอทีดังนี้:
- ระบบรับเรื่องร้องเรียน (Ticketing System): คล้ายกับ Freshdesk, Freshservice มีระบบรับเรื่องร้องเรียนเพื่อติดตามและจัดการคำขอและปัญหาภายในฝ่ายไอที ช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานของฝ่ายไอทีให้มีประสิทธิภาพและ सुनทร [sŭn-tor] (รวดเร็ว) ในการแก้ไขปัญหา
- การจัดการสินทรัพย์: ติดตามสินทรัพย์ไอทีทั้งหมดของคุณ (ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ฯลฯ) ภายใน Freshservice ซึ่งช่วยในการควบคุมคลังสินค้า การกำหนดตารางการบำรุงรักษา และการจัดการสิทธิ์การใช้งาน
- ศูนย์บริการตนเอง (Self-Service Portal): เสริมพลังให้พนักงานสามารถค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาไอทีทั่วไปด้วยตัวเองผ่านฐานความรู้และคำถามที่พบบ่อย ซึ่งจะช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอที และช่วยให้พนักงานได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
- การจัดการเหตุการณ์ (Incident Management): Freshservice มีเครื่องมือช่วยระบุ วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาไอทีอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดระยะเวลาหยุดทำงาน (downtime) และ सुनทร [sŭn-tor] (รวดเร็ว) ในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
- การจัดการปัญหา (Problem Management): ระบุสาเหตุของปัญหาไอทีที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แนวทางเชิงรุกนี้ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในระยะยาว
- การจัดการเปลี่ยนแปลง (Change Management): จัดการการเปลี่ยนแปลงด้านไอที (การอัปเดตซอฟต์แวร์ การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ ฯลฯ) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบและ सुनทร [sŭn-tor] (รวดเร็ว) ในการเปลี่ยนแปลง
- การปฏิบัติตามมาตรฐาน ITIL: Freshservice ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ ITIL (Information Technology Infrastructure Library) ช่วยให้องค์กรบรรลุการดำเนินงานด้านไอทีที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพ
- ระบบอัตโนมัติบริการ (Service Automation): ระบบอัตโนมัติสำหรับงานไอทีที่ซ้ำซาก เช่น การรีเซ็ตรหัสผ่านและการเพิ่มผู้ใช้ใหม่ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีมีเวลามากขึ้นในการทำงานเชิงกลยุทธ์
- ข้อมูลเชิงลึกที่ใช้พลังงาน AI (Freshservice with AI): Freshservice เวอร์ชันเสียเงิน มีการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อทำให้งานต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ คาดการณ์เหตุการณ์ และให้คำแนะนำอัจฉริยะแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอที
โดยรวมแล้ว Freshservice ช่วยให้องค์กรไอทีสามารถส่งมอบบริการไอทีที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ช่วยยกระดับผลผลิตของพนักงาน และลดระยะเวลาหยุดทำงานของฝ่ายไอที
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Freshworks – Freshservice และ DEVICE42 ติดต่อได้ที่:
Sundae Solutions Co., Ltd.
T| +6626348899 E| sales@sundae.co.th
W| https://www.sundae.co.th/solution/crm-and-customer-experience/freshworks/freshservice/
- มิถุนายน 28, 2025
- Posted by: sundaeadmin
- Category: Articles-TH
